วิธีการดูแลลิฟท์เบื้องต้น

1.ลิฟท์จอดชั้นที่มีคนกดเรียก
2.มีสัญญาณเตือนเมื่อน้ำหนักบรรทุกเกิน
3.เมื่อพักการใช้งานลิฟท์ จะทำโดยเจ้าหน้าที่เฉพาะที่ได้รับกุญแจลิฟท์จากบริษัทเท่านั้นกระทำได้โดยการปิด SWITCH ตามคำแนะนำการใช้ลิฟท์
4.ปุ่มกดทำงานถูกต้อง
5.ช่อง SILL ของประตูนอกประตูในของลิฟท์จะต้องสะอาด
6.เช็คการทำงานของ SAFETY SHOE หรือม่านบังแสง
7.การทำงานของลิฟท์วิ่งเรียบ, ไม่มีเสียง, ไม่สั่น
8.ประตูห้องเครื่องลิฟท์ต้องมีกุญแจล็อค
9.อย่าวางสินค้าในห้องเครื่องลิฟท์หรือทางเข้าห้องเครื่องลิฟท์
10.ตรวจความเรียบร้อยของประตู, หน้าต่าง , พื้น , เพดาน , ผนัง ว่าไม่มีน้ำซึมเข้าได้
11.อุปกรณ์ถังดับเพลิง ติดตั้งไว้มองเห็นได้อย่างชัดเจน
12.กุญแจลิฟท์จะเก็บรักษาไว้กับเจ้าหน้าที่เฉพาะจะไม่ให้บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด ควรเก็บรักษากุญแจประตูชานพัก ให้ใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่
13.เช็คการทำงานของโทรศัพท์ (Intercom) ซึ่งโทรศัพท์นั้นเป็นการติดต่อสื่อสารทางเดียวระหว่างผู้โดยสารกับคนข้างนอกหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ต้องทำการตรวจเช็คการทำงานของโทรศัพท์ทุกวันโดยทำการเช็คการทำงานของโทรศัพท์เบื้องต้นดังนี้

13.1 จากผู้โดยสารในลิฟท์ ถึงผู้รับผิดชอบหรือผู้ดูแลลิฟท์
กดปุ่ม CALL บนแผงควบคุมภายในห้องโดยสารลิฟท์ เสียงออดจะมาดังที่ห้องผู้รับผิดชอบ/ผู้ดูแลลิฟท์ (หน้าชั้น 1 และห้องเครื่อง) เมื่อผู้ตรวจตรายกหูก็จะสามารถพูดติดต่อกันได้ใน กรณีลิฟท์เป็นกลุ่มต้องแน่ใจว่าลิฟท์ตัวใดมีสัญญาณเรียกมา

13.2 จากห้องผู้รับผิดชอบหรือผู้ดูแลลิฟท์ ถึงผู้โดยสารในลิฟท์
เพียงยกหูโทรศัพท์ก็สามารถพูดไปยังผู้โดยสารในตู้ลิฟท์ได้เลย กรณีลิฟท์เป็นกรุ๊ปต้องเลือกลิฟท์หมายเลขนั้นก่อนโดยกดหมายเลขลิฟท์ที่โทรศัพท์ วางหูโทรศัพท์ในตำแหน่งที่วางโทรศัพท์ แบตเตอรี่โทรศัพท์จะถูกใช้นอกเสียวางจากว่างโทรศัพท์ในตำแหน่งเดิม
เมื่อแบตเตอรี่หมดให้วางหูไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แบตเตอรี่จะถูกชาร์ทไฟให้ใช้งานได้อีก